งานกราบนมัสการ หลวงปู่ทองมา ถาวโร

งานกราบนมัสการ หลวงปู่ทองมา ถาวโร
งานประเพณีกราบนมัสการ หลวงปู่ทองมา ถาวโร

วันอังคารที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2558

หลวงปู่ทองมา ฆ่าเสือมือเปล่า

๑ ศรัทธาปาฏิหารย์ (บทพิเศษเป็นแต่งผญา)

ตอน ฆ่าเสือมือเปล่า
มาบัดนี่ มาสิกล่าว เป็นผญา
ขององค์หลวงปู่ทองมา หันมาฟังทางนี้
สิตัดตอน มาไห่ ตอนธุดงค์ ยุไพรป่า
กับอาจารย์ ซื่อคำภา ผู้เพิ่ลสอน ไห่เฮียนฮู้
ฟังเบิ่งดู้ ฟังเบิ่งเอา...
มามื้อนี้ ทองมานั้น อยากออกไป อยู่ในป่า
คูบาคำ-ภาเจ้า บ่ขัดข่อง เคืองใจ
เอ้าฮันนี้ ว่าอยากไป ยุ่ในป่า..ว่าตี้
พอสิถึง เวลา ให้เจ้า ทองมานี่
เตรียมจัดแจง อัฐะเจ้า บริขาร อย่าได้ขาด
เทิงบาตรขัน กาน้ำ ฮ่มได้ บ่อนเซา
หย่างไปดง บ่อนนั้น บ่อนสงบ เงียบงัน
ไห่เจ้าฟ้าว ไปสา เดินดุมไป ทางทิศนั้น
อย่าท่าคอย ตะเว็นค้อย มันสิค่ำ กลางทาง
ไห่ไปฮอด ไปเถิง ก่อนค่ำ ตะเว็นมืด
เฮามีควม สั้นสั้น จื่อไว้ ไห่เจ้าฟัง
ได้ยินเสียง อีหยัง อย่าได้วาย ตื่นเต้น
สติ ต้อง ตื่นโต...
ไห่เจ้าทอง มานี่ อยู่แต่ ในกรด
อย่าสิออก นอกมุ้ง เป็นแท้ ให้จื่อเอา ...เด้อทองมา
ข้าน้อยขอ ลาก้อน ลาก่อน เด้อจารย์
มันสิค่ำ เดินทาง งมซาว มืดฟ้า
ขอลาแล้ว ออกดุ่ม เดินไป
ห่างจากศา-ลาวัด หลายโล คือเว้า
จ้ำเข้าจ้ำ หย่างเอา ปานแล่น
ย่านมันมืด ต่อนหน้า สิเข้าป่า บ่อทัน...ตั้ว
เอ้าล่ะ หม่องนี้ล่ะ หม่องเป็น ตาอยู่
พอแต่ปัก กรดแล้ว ตะเว็นค้อย กะตกดิน
แมงจักจั่นแจ้ว จ้าวแจ้ว เสียงหวาน
ฮ้องจนดัง กังวาน ทั่วดง แดนนี้
เทิงเสียงนก เสียงค้าง สัตว์สา วาสิ่ง
เสียงลิงฮ้อง เอิ้นลูก ฟังแล้ว กะม่วนหู...อยู่เด้
บัดตกดึก มาแล้ว มาเงียบคัก ปานป่าผี
มีแต่เสียง ลมพัด ใบไม้ตีง ยามลมต่อง
ดีดีแล้ว สิภาวนา สาก่อน
ดึกดึกบาดนี้ บ่มีแนว มากวนกาย ..แท้แหล่ว
พุทธโธ พุทธโธ พุทธโธ
ว่ายุนี้ หายใจ เข้า-ออก
ใจกะคึด ฮอดบ้าน คิดฮอด บ่อนเซา
เพิ่ลคูบา กะสอนไว้ อย่าได้หน่าย ว่าพุทธโธ
โตมันหัด ทันแข็ง มันกะมี หน่ายบ้าง
ขันติ นั้นซอยได่หลาย....
พอแต่ดวง จันท์ค้อย เอียงทาง มาเน
คาดว่าตี สองแล่ว จั่งสิได่ เอนกาย
ฮ้วย ฮ้วย ฮ้วย เสียงดัง แก๊บบ ๆ
มันแม่นเสียง อิหยัง มาหย่างเดิก ปานนี้
หือแม่นเสียง โจรนั้น โจรป่า มาปล้น
มันบ่อแม่น เสียงคน หย่างดัง ปานนี้
ฮ่วย ฮ่วย ฮ้วย หือแม่นเสียง ผีป่า
มาหลอกพระ หลอกเจ้า มันเป็นบาป
มันเป็นกรรม...แท้เด้
ฮ้วย ฮ้วย ฮ้วย ไห่เจ้าเซาหย่าง สาก่อน
อย่ามาหา ก่อกวน พระผู้ทรง ศีลเจ้า
เสียงหย่างย่อง วนอยู่ ข้างกรด
มันบ่อหนี ไปไส หย่างแฮง ดังขึ้น
เอ้าบาดนี้ สิเปิดกรด ลองเบิ่ง
ไห้มันเห็น แก่นแท้ โตนั้น แม่นหยัง
หาเทียนไต้ จุดไฟ เบิ่งกะน้า
มันแม่นโต อิหยัง มาคอยวน เวียนรอบ
บาดแต่เบิด มุ้งขึ้น ขนลุก เหมิดคีง
หันสิตีงไปไส กะหนีไป บ่อได่
มันเป็นเสือ กลอนฮ้าย ลายพาด กลอนใหญ่
ตาใสปาน ลูกแก้ว แวววับ กว่าแสงเทียน
มันมาคอย เวียนวน จอบยอง กินซี้น
โตกะใหญ่ สูงฮ้าย ว่าปาน งัวน้อย
สิมาจอบ กินเฮา ยามหลับ เป็นได่
พอตะมี สติได่ จำควม เพิ่ลอาจารย์
แม่นสิพ้อ อันได่ กะอยู่แต่ ในหม่องนี้
อย่าหาแล่น แต่ทางหนี...
นอนบ่หลับ ฮอดเซ้า ตะเว็นขึ้น ฟ้าสาง
ออกหาทาง มาวัด มากล่าวจา อาจารย์เจ้า
เป็นซั่งซี้ ล่ะคูบา.......
เพิ่ลอาจารย์ คำภา กะหัวเราะ ยิ้มเป้ย ๆ
ตายไปน้อ ทองมาเจ้า ผู้นั่งเว้า ยุต่อหน้า..นี้น้อ
อย่าสิท้อ อย่าสิหวั่น ไห่เจ้าหัน ลงก้มหน้า
เบิ่งผ้าจีวร...เด้อ...
ผ้าผืนนี้ ซื่อว่าผ้า พุทธโธ
โตเจ้านั้น ซื่อว่า ลูกบรมเจ้า อย่าได้กล่าว ว่าลูกไผ
เฮาได้น้อมถวาย ตายเพื่อพลี ธรรมะเจ้า..แม่นบ่
ไห่เจ้าไป คืนนี้ ลองเบิ่ง อีกจักเทื่อ ไห่เจ้าเอา ธรรมนั้น
ต่อสู้กับเสือ พอได้ฟัง จารย์เว้า น้าตานอง อยู่ในหน่วย
เฮามา ขี้ล้ายแท้ เสียชาติ ลูกพุทธโธ ...
เอาคืนนี้ สิกลับไป ควมเพิ่ลว่า
มันสิตาย กะบ่ย้าน ตำนานนั้น ได้ซาลือ
ก่อนสิไปคืนนี้ ของดี มีไห่ ได่เอาปูน หมากเคี้ยว
ติดย่ามไปนำ คันได้พ่อ เสือนั้น ไห่เอาปูน บาดคอเสือ
มันสิเหมิด เฮื่อแฮง สิ้นลาย แดดิ้น...
ฟังเพิ่ลจารย์ ว่าแล้ว อดหัวยุในใจ
มันสิตาย บ่อนได่ เสือลาย โตนี้
แต่เพิ่ลเอา ปูนไห่ เอาไว่ สาก่อน
ติดย่ามไว่ เบาแท้ กว่าหิน
ตัดมาตอน ดึกเงียบ เข้ามาหา บ่อนเก่า
บ่อนเคยพ่อ เสือฮ้าย คืนนั้น บ่ทันลืม
ดึกดึกนี้ นั่งอยู่ ภาวนา บ่ได้ยินเสียงหยัง
เงียบงัน ปานนี้ ... บ่นั่งโดน รอซ้า ขวบเก่า มาถึง
ฮอดเวลาตีสอง เสียงหย่าง มาอีกแหล่ว
มาบัดนี้ บ่ได้วาย ย้านแล่น หัวใจแกร่ง แข็งกล้า
มานั่งถ้าแต่โดนๆ ...มาโลด
ได้ยินเสียง คำรามก้อง สนั่นป่า เวลาดึก
ใจกะคอง ตั้งถ้า เวลานี้ ไห่หย่างมา
พอแต่เปิดมุ้งแล้ว เหลียวหา บ่ต้องยาก
หากว่าเสือ โตนี้ ยืนถ้า บ่อนเดิม
พอแต่เห็น ท่อนั้น ใจกะหวั่น อยู่ในเอิก
แม่นสิบ่ ย้านตาย กะย้านเจ็บ ปวดร้าว
พอแต่คิด ฮอดพ่อ ปูนขาว เคี้ยวหมาก
เพิ่ลอาจารย์ สั่งไว้ จกปาด คอเสือ
เปิดกับออก เอานิ้วมือ จกปูนขาว
สิไปปาด คอมัน บ่ได้รี รอรั้ง
กลั้นหายใจ เอาไว้ เด่มือ สาก่อน
เสือมันยืน ยุต่อนหน้า ทองมานั้น ปาดคอเสือ
ทองมานั้น สู้กับเสือ ...
แล้วๆนั้น เอนกาย ลงนอน อย่าสิไป ออนซอน
เสือได้หนี ไปแล้ว คันบ่หนี ถวายแล้ว ชีวัน สังขาร
สิมากินตอนได่ กะคาบไป เอาโลด
ฮอดตอนนี้ แดดส่อง พสุธา
ฟังแต่เสียง ไก่ป่า ขันปลุก ลุกเซ้า
มองเบิ่ง แขนขานี้ กะบ่มี หยังขาด
บ่มีบาด แผลเลือด คมแข่ว เล็บเสือ
ฮู้ว่าเฮา ผุ้นี้ ยังบ่ทันตาย กะสิฟ้าว ต่าวเตื้อง
เข้าสู่อาราม...ถ่อนตั้ว
พอบายกา น้ำได่ รินหลั่ง ลงขัน
ว่าสิเอามาเท ล้างตา หู ปาก
คันแต่ยก ขันขึ้น สะยานฮ้อง ตกใจ
มองไปเห็น เงาขัน คือคอ ขาวพาด
พอสิทิ่ม ขันน้ำ เหมิดเฮื่อ อ่อนแฮง
เสือที่เฮา ว่าฮ้าย มันซางเป็น แนวนี้
มันคือเสือ โตนี้ โตใหญ่ ในจิต
มันเป็นเสือ ความคิค วนอยู่ใน หม่องนี้
บัดนี้ได่ ฮู้แจ้ง ฮุงเฮือง ปัญญา
เพิ่ลอาจารย์ คำภา เพิ่ลกะมี ญานแท้
ไห่เอาปูน เคี้ยวหมาก ต่อสู้กับเสือ
มันบ่อแม่น เสือหยัง กะเสือเฮา โตนี้
สิค่อยคอย ฝึกกล้า ฝึกวิชา ไห้กล้าแก่
หนหางไกล ยุบ่อนหน้า นิพพานพ่อ อยู่บ่ไกล
นิพพานนั้น อยู่บ่ไกล แท้แหล่ว..ทองมาเอย
ประพันธ์โดย นิโรธ ณ หนองแค

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น